นางวันทนีย์ วัฒนะ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. เปิดเผยว่า จากสถิติพบว่า พนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ และพนักงานเก็บสตางค์ เป็นกลุ่มที่มีภาวะติดเชื้อวัณโรคมากถึง 30% ซึ่งมีโอกาสแพร่เชื้อโรคไปยังผู้โดยสารมากที่สุด เนื่องจากต้องอยู่สภาวะในที่มีอากาศถ่ายเทไม่สะดวก เป็นเวลานาน เชื้อวัณโรคจึงสามารถแพร่กระจายไปวงกว้าง เพราะเชื้อวัณโรคเป็นเชื้อโรคที่แพร่กระจายไปตามอากาศและลมหายใจ สำหรับบุคคลที่มีภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอ เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเอชไอวี (HIV) จึงตกเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ติดเชื้อได้ง่าย
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปคัดกรองโรคให้กับกลุ่มผู้ขับขี่รถสาธารณะเป็นประจำทุกปี เพื่อตรวจหาภาวะโรคติดต่อ หากพบการติดเชื้อควรจะต้องหยุดงานทันที เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค แต่หากไม่สามารถหยุดได้จะต้องมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการป้องกัน คือผ้าปิดปากที่สามารถใช้ป้องกันได้
นอกจากนี้ ผู้ที่ได้รับเชื้อจะต้องเข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธี โดยในระยะแรกคือการรักษาอย่างเข้มงวด ผู้ที่ได้รับเชื้อโรคจะต้องปฏิบัติตนตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ส่วนระยะ 4 เดือนต่อมาผู้ได้รับเชื้อจะต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ที่อยู่ในภาวะเสี่ยงควรจะตรวจคัดกรองโรค โดยสามารถเข้ารับการตรวจได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขในสังกัด กทม.ใกล้บ้านฟรี