วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

อาหารในโรงเรียนตกมาตรฐาน ทำเด็กไทยไม่ทันเพื่อนบ้าน

นักวิชาการเรียกร้องให้ทบทวนยกเครื่องใหม่นโยบายอาหารในโรงเรียน ยันงบประมาณ 13 บาทยังไม่พอซื้อวัตถุดิบ







ด้าน อาจารย์อุไร อิศรางกูร ณ อยุธยา อาจารย์จากโรงเรียนสวนส้มจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า เป็นการยากที่จะให้โรงเรียนจัดอาหารตามมาตรฐานได้ แม้ว่าจะพยายามบริหารจัดการอย่างดีที่สุดแล้ว แต่งบประมาณ 13 บาทต่อวันที่ได้รับนั้นไม่เหมาะสมกับความเป็นจริงในปัจจุบัน โรงเรียนไม่สามารถจัดให้เด็กได้ทานอาหารที่มีคุณภาพได้แค่ค่าวัตถุดิบก็ยังไม่พอ แต่ทางโรงเรียนยังต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในส่วนค่าแรงแม่ครัว ค่าก๊าซหุงต้ม และค่าใช้จ่ายอื่นๆ และหากจะให้มีแม่ครัวที่มีคุณภาพมีความรู้ทางโภชนาการพอก็คงต้องมีการลงทุนมากกว่านี้
          น.พ. ธีรพล โตพันธานนท์ รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่ากรมอนามัยพร้อมทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการสนับสนุนด้านวิชาการ ผ่านทางสื่อนวัตกรรมของกรม การอบรมเพื่อให้บุคลกรที่เกี่ยวข้องมีความรู้และมีการประเมินพัฒนาการของเด็ก รวมทั้งการบูรณาการความรู้ด้านโภชนาการในหลักสูตรการเรียนการสอนและการจัดอาหารเสริมที่มีความจำเป็นแก่เด็กกลุ่มเสี่ยงเช่น ยาเสริมธาตุเหล็ก โดยมีเป้าหมายให้โรงเรียนสามารถจัดอาหารกลางวันที่มีคุณภาพแก่เด็กทุกคน และมีการควบคุมอาหารว่าง อาหารที่ไม่มีประโยชน์ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน
           นายสง่า ดามาพงศ์ เครือข่ายโภชนาการสมวัย เผยว่า การพัฒนาระบบการจัดอาหารในโรงเรียนของประเทศไทยถือเป็นความท้าทายของสังคมไทย ที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ใช่เฉพาะภาคการศึกษาและสาธารณสุขเท่านั้น ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมประชุมครั้งนี้มีความความมุ่งมั่นร่วมกันในการผลักดันให้มีการยกเครื่องระบบอาหารภายในโรงเรียน ทั้งระบบทรัพยากร งบประมาณ และ การบริหารจัดการ เพื่อส่งเสริมให้เด็กไทยมีพัฒนาการที่สมวัยและเป็นทรัพยากรที่สำคัญในอนาคต

วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555


วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

มท.1 ร้องผู้ว่าทั่วประเทศเข้มจัดลอยกระทงต้องอยู่ในกรอบของพ.ร.บ.คุมเหล้า




มท.1เอาจริง!!! สั่งผู้ว่าทั่วประเทศเข้มจัดลอยกระทงต้องอยู่ในกรอบของพ.ร.บ.คุมเหล้า ด้านสคล.หวั่นเจ้าภาพไม่สนปล่อยขาย-ดื่มท้าทายกฎหมายเกลื่อน ขณะที่เครือข่ายเยาวชนฯ ชี้ ชุมชนรอบพื้นที่จัดงานลอยกระทง กว่า84% อยากเห็นงานปลอดเหล้า เชื่อไร้ทะเลาะวิวาท-ลวนลาม
วันที่ 14 พ.ย.55 ที่กระทรวงมหาดไทย เวลา 10.30 น. ภก.สงกรานต์  ภาคโชคดี  ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) พร้อมด้วย นักศึกษาจากเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ กว่า 30 คน เข้าพบ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย  เพื่อแสดงความยินดีในการเข้ารับตำแหน่งใหม่ และมีข้อเสนอต่อกระทรวงมหาดไทย ดังนี้ 1. กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ  ในฐานะ ประธานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัด  เร่งรัดบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 โดยเฉพาะห้ามขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี รวมถึงพื้นที่ห้ามขายห้ามดื่ม อาทิ สถานที่ราชการ  สถานศึกษา  สวนสาธารณะ  วัด  ซึ่งมักจะมีการจัดงานกาชาด  ลอยกระทง สงกรานต์หรือปีใหม่  และควรนำเรื่องประสิทธิภาพในการควบคุมและลดปัญหาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นตัวประเมินผลงานของจังหวัดด้วย
2. ขอให้ผู้ว่าฯทุกจังหวัดดำเนินการให้งานบุญประเพณีอาทิ งานศพ  งานบวช  งานบุญอื่นๆ เป็นงานปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  ตามที่มีบางจังหวัดทำสำเร็จมาแล้ว เช่น ศรีสะเกษ  มหาสารคาม และน่าน เป็นต้น  เพราะสามารถลดค่าใช้จ่ายลงได้เกือบครึ่ง  และถ้ารวบรวมตัวเลขที่ประหยัดได้ทุกจังหวัดก็จะเป็นผลงานของมหาดไทย  ในการลดรายจ่ายให้ประชาชนตามนโยบายรัฐบาล 3. มอบหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานในสังกัด เร่งประชาสัมพันธ์และรณรงค์กฎหมายใหม่ 3 ฉบับ ได้แก่ ห้ามดื่มสุราบนรถ ห้ามขายห้ามดื่มในพื้นที่ประกอบกิจการโรงงาน และห้ามขายห้ามดื่มในรัฐวิสาหกิจ และ4. เข้มงวดสถานบริการ โดยเฉพาะร้านเหล้า ผับ บาร์ที่ตั้งอยู่รอบสถานศึกษาไม่ให้มีการทำผิดกฎหมาย  ห้ามเด็กเข้าใช้บริการ เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนและลดพื้นที่เสี่ยง


วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ชู 6 ผักสมุนไพร ช่วยลดเบาหวาน





ชูผักสมุนไพรไทย 6 ชนิด ได้แก่ ตำลึง มะระขี้นก วุ้นว่านหางจระเข้ กะเพรา ใบหม่อน และใบบัวบก มีสรรพคุณลดน้ำตาลในเลือดช่วยผู้ป่วยโรคเบาหวานได้ดี
ผักพื้นบ้านและสมุนไพรไทยอย่างน้อย 5 ชนิดที่ช่วยในการลดน้ำตาลในเลือด ได้แก่ 1.ตำลึง โดยใช้เถาแก่ๆประมาณ 1 กำมือ ต้มกับน้ำ หรือน้ำคั้นจากผลดิบ ดื่มวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น จะช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ เพียงแต่จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมว่าการรับประทานในรูปแบบของแกงจืดมีผลในการลดสาระสำคัญในตำลึงที่ช่วยในการลดน้ำตาลในเลือดหรือไม่ 2.มะระขี้นก วิธีการใช้ หั่นเนื้อมะระตากแห้งชงน้ำดื่ม หรือรับประทานผลสดครั้งละ 6-15 กรัม หรือคั้นน้ำจากผลสด 1 ผลแล้วดื่ม 3.วุ้นว่างหางจระเข้ ใช้โดยวุ้นว่านหางจระเข้หั่นสดประมาณ 1 ช้อนโต๊ะมาปั่นแล้วรับประทานวันละ 2 ครั้ง แต่นักวิจัยระบุว่าสาระสำคัญไม่คงตัว ในการใช้เองที่บ้านอาจต้องใช้แบบหั่นสด 4.กะเพรา นำใบกะเพราตากแห้ง 2-5 กรัมละลายน้ำแล้วดื่ม และ 5.ใบหม่อน มีสาระสำคัญในการลดน้ำตาลในเลือด โดยสารชนิดนี้จะออกมาได้ดีเมื่อนำไปชงแบบชา ทิ้งไว้ 3-5 นาที ซึ่งสารชนิดนี้ช่วยยับยั้งเอนไซม์ย่อยน้ำตาล การดูดซึมกลูโคสลด ระดับน้ำตาลในร่างกายก็จะลดลงด้วย
“สำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่มีแผลและหายช้ากว่าคนปกติทั่วไป มีการวิจัยพบว่า บัวบกสามารถเร่งการหายของแผลได้เร็วขึ้น โดยปั่นน้ำบัวบกเข้มข้นดื่มต่างน้ำ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยที่กินสมุนไพรในการช่วยลดน้ำตาลในเลือด ควรแจ้งให้แพทย์แผนปัจจุบันที่ทำการรักษาด้วย เนื่องจากบางครั้งแพทย์อาจจะจัดยาให้ในปริมาณที่เหมาะสมแล้ว เมื่อรับประทานผักหรือสมุนไพรควบคู่ด้วยอาจทำให้น้ำตาลลดมากเกินไป”



บทความที่ได้รับความนิยม